ปัจจุบันเป็นยุคสมาร์ทโฟนครองเมือง ลองคิดดูว่าแต่ละวันนอกจากเราต้องเจอกับการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอด 8-10 ชั่วโมงแล้ว นอกเวลางานเรายังติดการเล่นสมาร์ทโฟนจนต้องก้มมองหน้าจอนานๆ ในที่สุดก็ทำให้บุคลิกภาพเสีย หลังค่อม เกิดอาการปวดหลัง ปวดคอ แถมยังส่งผลเรื้อรังจนอาจกลายเป็นออฟฟิศซินโดรมอีกด้วย!?
เพราะฉะนั้นวันนี้ ลองมาดู 5 วิธีการปรับท่าทาง เพื่อช่วยลดอาการปวดหลังให้น้อยลง แถมยังช่วยปรับสรีระและบุคลิกภาพให้ดีขึ้นกันดีกว่า
1. ทำกายภาพเพื่อปรับสรีระด้วยตัวเอง
การปรับสรีระด้วยตัวเองในเบื้องต้นนั้นไม่ใช่เรื่องยาก มนุษย์ออฟฟิศอย่างเราสามารถทำง่ายๆ ในทุกวัน เริ่มจากการยืนหลังตรงชิดกำแพง โดยพยายามให้ไหล่ทั้งสองข้างแนบสนิทกับกำแพง แขนชิดลำตัว ส้นเท้าชิดติดกำแพง ในช่วงแรกอาจรู้สึกว่ากล้ามเนื้อตึงหรือฝืนร่างกาย นั่นเป็นเพราะสรีระของเราเสียไปเพราะก้มมองจอมือถือ และการนั่งทำงานหน้าจอคอมเป็นเวลานานโดยนั่งไม่ถูกสุขลักษณะ ฝึกยืนปรับสรีระทุกวัน วันละ 5-10 นาที จะช่วยปรับกระดูกสันหลังที่งอให้กลับมาตรงและลดอาการไหล่ห่อ รวมถึงช่วยลดอาการปวดหลังได้
2. เล่นโยคะ
โยคะเป็นการออกกำลังกายที่ต้องอาศัยความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การเล่นโยคะจึงมีส่วนช่วยในการปรับสรีระของเราให้บุคลิกภาพดีขึ้น ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ลดอาการปวดหลัง ปวดคอ หรือการปวดกลามเนื้อส่วนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
3. ฝึกนั่งหลังตรง
การนั่งหลังตรงเป็นวิธีที่เหมือนง่ายแต่ทำยาก เพราะหลายคนเคยชินกับการนั่งหลังงอเวลาทำงาน แต่คุณรู้ไหมว่าการนั่งหลังงอนั้นนอกจากจะทำให้ปวดหลัง ปวดคอและยังปวดเมื่อยง่ายขึ้นแล้ว ยังทำให้เรากลายเป็นคนหลังค่อมได้ในอนาคต แถมยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมอีกด้วย ดังนั้นพยายามยืดหลังให้ตรงทุกครั้งไม่ว่าจะระหว่างการนั่งทำงานหรือระหว่างวัน เพื่อปรับสรีระและปรับบุคลิกภาพให้ดีขึ้น
4. ใช้อุปกรณ์ช่วยดันหลังระหว่างนั่งทำงาน
ระหว่างนั่งทำงานหลายคนอาจรู้สึกนั่งไม่สบาย หลังไม่ติดเก้าอี้ หรือรู้สึกฝืนเมื่อต้องนั่งหลังตรง มีอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ คือการใช้อุปกรณ์ช่วยดันหลัง เช่น หมอนอิง หรือเบาะรองหลัง การใช้อุปกรณ์เหล่านี้มาช่วยจะทำให้เก้าอี้รับกับสรีระของเราได้ดีขึ้น ช่วยปรับให้การนั่งสบายขึ้น และลดอาการปวดหลังได้ดี นอกจากนี้การใช้เก้าอี้สำหรับปรับสรีระโดยเฉพาะก็ช่วยได้เช่นกัน
5. หมั่นยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
กล้ามเนื้อที่แข็งแรงและยืดหยุ่นจะปวดเมื่อยและตึงเครียดน้อยกว่า เราจึงควรฝึกยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกวัน อย่างน้อยวันละ 10-15 นาที อาจเลือกช่วงเช้าหรือเย็นก็ได้ นอกจากนี้ระหว่างการนั่งทำงาน การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเบาๆ ก็จะช่วยลดอาการปวดหลังรวมถึงคลายความปวดเมื่อร่างกายส่วนอื่นๆ ได้อีกด้วย
อาการปวดหลังนอกจากจะเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอกแล้ว ปัจจัยภายในและบุคลิกภาพของเราก็มีส่วนทำให้เกิดอาการปวดหลังได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นใครที่อยากลดหรือผ่อนคลายอาการปวดหลังและปวดกล้ามเนื้อบริเวณอื่น ลองนำเคล็ดลับทั้ง 5 วิธีที่เรานำมาฝากไปลองใช้กันดูนะครับ รับรองว่าเมื่อหมั่นทำ หมั่นฝึกฝนเป็นประจำ นอกจากจะช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อหลังแล้ว ยังช่วยปรับบุคลิกภาพของเราให้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงออฟฟิศซินโดรม และยังช่วยให้สรีระของเราได้รูปตามธรรมชาติ โครงสร้างร่างกายเป็นปกติไม่ผิดเพี้ยนอีกด้วยครับ