การเลือกโต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้า (How to Custom Standing desk)

รูปแบบขาโต๊ะปรับระดับของ Standing desk Thai

เมื่อตัดสินใจจะซื้อโต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้าทั้งที เราก็ต้องได้โต๊ะที่เหมาะกับการใช้งานของเราครับ ทาง Standing Desk Thai จึงเปิดให้สามารเลือกปรับแต่งโต๊ะได้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคน

โดยบทความนี้ได้รวบรวมตัวเลือกทั้งหมดและจัดออกมาเป็น 4 ชั้นตอนใหญ่ๆ โดยแต่ละขั้นตอนก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อย ซึ่งเรารับรองว่าพออ่านจบแล้วคุณจะสามารถเลือกโต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้าได้ตรงกับความต้องการแน่นอนครับ

4 ขั้นตอนเลือกสั่งซื้อโต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้า

A. เลือกรูปแบบโต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้า

รูปแบบขาโต๊ะปรับระดับ

B. เลือกชนิดท็อปโต๊ะและขนาด

ชนิดท็อปโต๊ะสำหรับโต๊ะปรับความสูงด้วยไฟฟ้า

C. เลือกการจัดวางสายไฟ และ D. เลือกอุปกรณ์เสริม

ถัดไปเราจะลงรายละเอียดของแต่ละขั้นตอนครับ แต่ก่อนที่จะไปเลือกโต๊ะเราแนะนำให้คุณลอง พิจารณาความต้องการเฉพาะของคุณ เช่น พื้นที่วางโต๊ะ ลักษณะงาน อุปกรณ์ที่ต้องการใช้บนโต๊ะและงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ เพื่อใช้เป็นหลักในการตัดสินใจ

ทีนี้ถ้าพร้อมแล้วก็ลุยเลยครับ

รายละเอียดการเลือกสั่งซื้อโต๊ะปรับความสูงด้วยไฟฟ้า(Standing Desk)

A. เลือกรูปแบบโต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้า

เริ่มต้นเลยคือเลือกโต๊ะที่เหมาะสมกับการทำงานของคุณ เพราะลักษณะโต๊ะที่ต่างกันก็ตอบสนองความต้องการได้แตกต่างกัน

A.1. โต๊ะมาตรฐาน

โต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้า แบบมาตรฐาน

โต๊ะยืนไฟฟ้ามาตรฐานมีฟังก์ชันการปรับความสูงได้ ช่วยให้คุณเปลี่ยนระดับความสูงของโต๊ะเพื่อรองรับการใช้งานทั้งนั่งหรือยืนตามที่คุณต้องการ ซึ่งโต๊ะของเราเหมาะสำหรับผู้ใช้ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชายหรือเด็กที่มีความสูงตั้งแต่ 120-190 ซม (เพราะตัวโต๊ะสามารถปรับความสูงได้ตั้งแต่ 60.5 ซน จนขึ้นไปถึง 120 ซม)

ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป และสามารถตอบสนองความต้องการของบุคคลส่วนใหญ่ได้ โดยโต๊ะแบบนี้สามารถรองรับหน้าท้อปขนาด 70×50 ซม. จนถึง 200×80 ซม.

A.2. โต๊ะตัวแอลโดยส่วนยาวไม่เกิน 110 ซม

โต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้า แบบตัวแอล Standing Desk Thai

หากคุณมีพื้นที่จำกัดแต่ชอบโต๊ะรูปทรงตัวแอลเพื่อที่จะมีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับการวางแขนหรือการวางของด้านข้าง เฟรมตัวนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะโต๊ะนี้ให้ความสะดวกสบายด้วยดีไซน์รูปตัว L มากับขนาดกะทัดรัด ด้วยขนาดความยาวด้านแอลไม่เกิน 110 ซม

A.3. โต๊ะตัวแอลโดยส่วนยาวเกิน 110 ซม

โต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้า แบบตัวแอล 3 ขา Standing Desk Thai

ถ้าหากโต๊ะแบบด้านบนไม่เพียงพอกับการใช้งาน คืออยากได้โต๊ะรูปตัวแอล ที่ใหญ่หน่อยโดยมีความยาวส่วนด้านข้างเพิ่มเติมที่เกิน 110 ซม. ขาโต๊ะรุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า โต๊ะแบบนี้จะมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับจอภาพหลายจอ เอกสาร หรือสิ่งจำเป็นในการทำงานอื่นๆ เหมาะกับบุคคลที่ต้องการพื้นที่ทำงานที่กว้างขึ้น หรือผู้ที่ทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ซึ่งรุ่นนี้จะมีขาโต๊ะทั้งหมด 3 ขา ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักและท้อปโต๊ะยาวๆได้ครับ

A.4. โต๊ะตัวแอล 120 องศา

โต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้า แบบตัวแอล 120 องศา Standing Desk Thai

โต๊ะรูปตัว L ที่มีมุม 120 องศาไม่เหมือนใครรุ่นนี้จะคล้ายๆกับโต๊ะตัวแอลแบบ 3 ขา แต่ส่วนโต๊ะสองฝั่งจะปรับให้ทำมุมกัน 120องศา ช่วยให้ตอบโจทย์ทางสรีรศาสตร์มากขึ้น เนื่องจากคุณสามารถวางอุปกรณ์การทำงานให้เข้าถึงได้ง่ายทั้งด้านซ้ายและด้านขวามือ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับงานผู้ที่ต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่างๆ พร้อมๆกันหรือบ่อยครั้ง

A.5. โต๊ะปรับระดับยาวพิเศษ 3 ขา

โต๊ะประชุมแบบปรับระดับด้วยไฟฟ้า ของ Standing desk Thai

โต๊ะยืนแบบไฟฟ้าชนิดยาวพิเศษ คือสามารถรองรับท้อปโต๊ะที่ยาวถึง 300 ซม โต๊ะนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการนำโต๊ะปรับระดับมาใช้เป็นโต๊ะประชุม ที่สามารถนั่งประชุม หรือทำ Stand-up Meeting ก็ทำได้ทันที หรือผู้ที่ต้องการพื้นที่ทำงานที่กว้างมากๆ และแบ่งโซนการทำงานออกเป็นส่วนๆ ยกตัวอย่างเช่น ส่วนสำหรับคอมพิวเตอร์ ส่วนสำหรับการออกแบบ ส่วนสำหรับการอ่านหนังสือ โต๊ะรูปแบบนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

A.6. โต๊ะปรับระดับมั่นคงพิเศษ 4 ขา

โต๊ะปรับความสูงด้วยไฟฟ้าแบบมั่นคงพิเศษ ของ Standing desk Thai

โต๊ะยืนไฟฟ้าสี่ขารุ่นท้อปสุดนี้มีการออกแบบโครงสร้างที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง มั่นคง และความสามารถในการรับน้ำหนักมากกว่าโต๊ะมาตรฐาน ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคง ความแน่น(Stable) ไม่โยก (Shake) หรือ โครงเครง(Wobble)

B. เลือกชนิดของท้อปและขนาด

เมื่อเลือกรูปแบบขาโต๊ะได้แล้วถัดไปเราก็มาจะมาเลือกท็อปโต๊ะสำหรับโต๊ะทำงานของเรากันต่อครับ:

หลักการเลือกท็อปโต๊ะสำหรับโต๊ะยืนทำงาน ให้พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ความชอบทั้งรูปลักษณ์และผิวสัมผัส งบประมาณ ความทนทาน และการบำรุงรักษา เพราะท้อปแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติเฉพาะของตัวเอง

B.1. ไม้จริง

การเคลือบไม้ด้วยยูวีแลคเกอร์

คือไม้แท้ทั้งแผ่น ที่นำมาต่อกันเพื่อให้ได้ไม้ขนาดใหญ่ตามต้องการ แล้วนำมาขัดและเคลือบด้วยเทคนิคเฉพาะของทาง Standing Desk Thai ทำให้ได้ท้อปโต๊ะที่มีความเรียบเนียน ผิวสัมผัสดี ความทนทานสูง กันน้ำ กันความร้อนได้ดี ข้อดีอีกอย่างของแผ่นไม้แท้คือเมื่อเกิดความเสียบหาย ไม่ว่าจะเป็นรอยขีดข่วนก็สามารถนำมาเข้ากระบวนการขัดเคลือบให้เหมือนใหม่ทำให้ท้อปไม้จะอยู่กับเราได้ยาวนานหายห่วงครับ

ไม้ที่เรามีจะมีสองแบบครับคือ

ไม้แท้แบบเพาะข้างและไม้แท้แบบประสาน
ไม้แท้แบบเพาะข้างและไม้แท้แบบประสาน
  1. ไม้เพาะข้างคือไม้หน้าใหญ่และยาวมาต่อเฉพาะด้านข้างเท่านั้นจึงทำให้ได้ไม้ที่มีลายไม้สวยยาวต่อกัน และมีความแข็งแกร่งสูง โดยมาตรฐานจะมีความหนา 2 เซนติเมตร แต่ก็สามารเลือกสั่งความหนาตามต้องการได้
  2. ไม้ประสานคือไม้ที่เชื่อมต่อโดยการประกอบไม้ชิ้นเล็กๆ เข้าด้วยกันทั้งด้านกว้างและด้านยาว เพื่อให้ได้ไม้ตามขนาดที่ต้องการ วิธีการประสานนี้ให้ความมั่นคงและทนทานที่เพียงพอสำหรับการใช้เป็นโต๊ะทำงาน ในขณะที่ยังคงความงามของไม้ธรรมชาติ ไม่เหมือนใครด้วยลวดลายคล้ายโมเสก และเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบกับไม้แบบเพาะข้าง

Standing Desk Thai ได้เตรียมไม้มาให้เลือกหลากหลายแบบตามความชอบ ทั้ง ไม้สักพม่า ไม้วอลนัท ไม้มะฮอกกานี ไม้โอ๊ค ไม้บีช ไม้แอช และไม้ยางพารา โดยไม้แต่ละชนิดก็จะมีสีและลวดลายที่แตกต่างกันครับ

ไม้สักพม่า:
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้สักแท้
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้สักเพาะข้างและไม้สักประสาน

ไม้สักพม่าที่ผูกพันกับคนไทยมาทุกยุคทุกสมัย เพราะมีสีน้ำตาลทองอบอุ่น เส้นลายไม้ตรง ไม้สักเป็นไม้เนื้อแข็งมีความทนทานสูงและทนทานต่อการผุพัง ทนทานต่อน้ำและแมลง จึงเหมาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งหรือท็อปโต๊ะ ด้วยการดูแลที่เหมาะสม โต๊ะไม้สักพม่าสามารถมีอายุการใช้งานได้หลายปีโดยไม่สูญเสียความสวยงามหรือความแข็งแรง

ไม้วอลนัท:
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้วอลนัท
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้วอลนัทเพาะข้างและไม้วอลนัทประสาน

วอลนัทเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีสีน้ำตาลเข้ม ประกอบกับลายไม้โค้งวนให้ความรู้สึกนุ่มลึกและหรูหรา ไม้มีความแข็งแรง ทนทาน และมีพื้นผิวที่เรียบ ด้วยสีและลายไม้ ทำให้ไม้วอลนัทเป็นตัวเลือกที่มาแรงสำหรับการใช้งานเป็นท้อปโต๊ะขณะนี้ครับ

ไม้มะฮอกกานี:
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้มะฮอกกานีแท้
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้มะฮอกกานีแท้

มะฮอกกานีเป็นไม้เนื้อแข็งสีน้ำตาลแดงเข้มที่มีลายไม้ตรงและสม่ำเสมอ ไม้มีความแข็งแรงและทนทานในระดับพรีเมียม ถ้ามีโต๊ะมะฮอกกานีอยู่ในห้องจะช่วงดึงดูดสายตา เพิ่มความหรูหรา สง่างามและความอบอุ่น

ไม้โอ๊ค:
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้โอ๊คแท้
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้โอ๊คเพาะข้างและ ไม้โอ๊คประสาน

ไม้โอ๊คเป็นไม้เนื้อแข็งยอดนิยมที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ทนทาน และสวยงามตามธรรมชาติ ไม้มีสีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลปานกลาง ท็อปโต๊ะไม้โอ๊คเหมาะสำหรับการตกแต่งในแบบมินิมอล แต่ก็สามารถใช้ในการออกแบบสมัยใหม่ได้เช่นกัน

ไม้บีช:
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้บีชแท้
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้บีชแท้

บีชเป็นไม้เนื้อแข็งสีอ่อนมีลายที่ละเอียดสม่ำเสมอ ไม้มีความแข็งแรง ทนทาน และมีพื้นผิวที่เรียบทำให้ง่ายต่อการใช้งาน ไม้บีชมีสีที่ออกส้มๆพอนำมาทำเป็นท็อปโต๊ะจึงมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอลสไตล์มินิมอลหรือสไตล์สแกนดิเนเวีย

ไม้แอช:
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้แอชแท้
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้แอชแท้

ไม้แอชเป็นไม้เนื้อแข็งสีอ่อนที่มีลวดลายเส้นชัดเจน ไม้มีความแข็งแรง ทนทาน และมีความมันวาวเล็กน้อยซึ่งให้รูปลักษณ์ที่ดูซับซ้อน และสีอ่อนของไม้จะช่วยเพิ่มความสว่างให้กับตัวห้อง

ไม้ยางพารา:
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้ยางพาราแท้
ท็อปโต๊ะปรับระดับไม้ยางพาราแท้

ไม้ยางพารา เป็นไม้เนื้อแข็งสีอ่อนที่มีลายไม้ละเอียด ไม้มีความแข็งแรง ทนทาน ไม้ยางพาราเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นไม้ที่เก็บเกี่ยวจากสวนยางพาราที่หมดอายุการใช้งานในการผลิตน้ำยางแล้ว เป็นไม้เดียวที่เป็นไม้ของไทยเอง นิยมนำมาย้อมสีไม้ตามต้องการ

สามารถเลือกดูผลงานท็อปไม้ที่เราทำได้ที่ลิงค์นี้ครับ (9) Facebook

B.1.3. ตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับไม้แท้:
การเว้าหน้าโต๊ะ และเว้าหลังโต๊ะสำหรับโต๊ะปรับระดับด้วยไฟฟ้าของ Standingdesk Thai

การผลิตท้อปไม้แต่ละแผ่นเป็นงานผลิตซึ่งทำด้วยมือซึ่งสามารถเลือกปรับเปลี่ยนตกแต่งตามที่ต้องการได้ ด้านล่างคือตัวเลือกที่สามารถเลือกทำได้ครับ

B.1.3.1. การเว้าหน้า
การเว้าหน้าโต๊ะ(Concave)
การเว้าหน้าโต๊ะ(Concave)


การเว้าหน้าโต๊ะหรือ “Concave Front” ทำให้โต๊ะดูมีดีไซน์ แปลกใหม่ และทันสมัย แต่จริงๆแล้วโต๊ะแบบนี้มีข้อดีคือ เราสามารถสอดตัวเข้าไปใกล้จุดกึ่งกลางของโต๊ะได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลหลักๆสามจุดด้วยกัน
.
(1) “ลำตัว” คือเมื่อตำแหน่งของเราใกล้ตัวโต๊ะแล้ว เราก็จะเข้าใกล้หน้าจอมากขึ้น ระยะเอื้อมของมือถึงสิ่งของบนโต๊ะก็ทำได้ง่าย หลีกเลี่ยงการเอนไปข้างหน้าโดยไม่จำเป็น
(2) “ข้อมือ” คือพอสอดตัวเข้าไปในโต๊ะ เราจะมีพื้นที่สำหรับพักท่อนแขนและข้อมือบนโต๊ะ
(3) “เก้าอี้” พื้นที่โค้งๆส่วนนี้ก็จะสามารถเข็นเก็บเก้าอี้เข้าไปใต้โต๊ะได้เรียบร้อยขึ้น
.
ส่วนข้อเสียของโต๊ะแบบเว้าหน้าก็มีครับคือ เสียพื้นที่ใช้งานบนโต๊ะไปบางส่วน ดังนั้นก่อนเลือกทำโต๊ะแบบนี้ควรวัดพื้นที่ที่ต้องการใช้งาน และระยะระหว่างหน้าจอกับตัวเราให้ดีก่อน ที่เราแนะนำคือควรมีระยะจากตัวเราไปถึงหน้าจอที่ใช้งานประมาณ 1 ช่วงแขนครับ

B.1.3.2. การเว้าหหลัง
การเว้าหลังโต๊ะ(Backwire)
การเว้าหลังโต๊ะ(Backwire)


การเว้าส่วนด้านหลังโต๊ะหรือ “Backwire” เป็นการตัดส่วนด้านหลังเพื่อให้เป็นทางลงของสายไฟหรือเพื่อเป็นจุดจับของแขนจับจอก็ได้โดยการเว้าหลังแบบนี้จะทำให้สามารถเอาตัวโต๊ะใกล้กับกำแพงด้านหลังได้มากขึ้นเนื่องจาก Monitor Arm ถูกวางหลบเข้ามาในตัวโต๊ะแล้วครับ

B.1.3.3. การทำขอบตรง
ท็อปไม้ขอบตรง(Sharp Edge)
ท็อปไม้ขอบตรง(Sharp Edge)

โต๊ะทำงานที่มีมุมแหลมจะดูแข็งแรง ทันสมัย และสะอาดตา มักเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ต้องการพื้นที่ทำงานสไตล์มินิมอลและอินดัสเทรียล มุมที่แหลมคมยังช่วยให้มีพื้นที่ใช้งานมากสุด

B.1.3.4. การทำขอบมน
ท็อปไม้ขอบมน(Bullnose Edge)
ท็อปไม้ขอบมน(Bullnose Edge)

ขอบแบบมุมมนจะดูนุ่มนวลและเป็นมิตรมากกว่าโต๊ะที่มีมุมแหลม มีโอกาสน้อยที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือรู้สึกไม่สบายเมื่อชนหรือเอนพิง มุมที่โค้งมนยังช่วยให้โต๊ะทำงานดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เหมาะกับพื้นที่ทำงานสร้างสรรค์

B.1.3.4. การทำขอบโค้ง
ท็อปไม้ขอบโค้ง(Curve Edge)
ท็อปไม้ขอบโค้ง(Curve Edge)

ขอบยอดนิยมของโต๊ะทำงานแบบยืนที่มีมุมโค้งทำให้โต๊ะดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย ในขณะเดียวกันก็เอนพิงหรือชนได้สบายยิ่งขึ้น มุมโค้งยังให้พื้นที่โต๊ะมากกว่าขอบมน ในขณะที่ยังให้ความปลอดภัยมนมากกว่าขอบตรง

B.1.3.5. การทำขอบเพ่
ท็อปไม้ขอบเพ่(Reverse Knife Edge)
ท็อปไม้ขอบเพ่(Reverse Knife Edge)

โต๊ะทำงานที่มีมุมลาดเอียงช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับพื้นที่ทำงานด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและโฉบเฉี่ยว

B.1.3.6. การลบคมไม้
ท็อปไม้ขอบลบคม(Eased Edge)
ท็อปไม้ขอบลบคม(Eased Edge)

ส่วนของขอบและมุมโต๊ะเราสามารถทำการลบคมไม้ด้วยความโค้งที่ลูกค้าต้องการได้ครับ โดยมาตรฐานเราจะลมคมด้วยความโค้ง R3 ครับ ทีนี้ก็จะสามารถวางข้อศอกบนโต๊ะได้อย่างสะดวกสบายครับ

ตัวเลือกถัดไปคือวัสดุเทียไม้ เช่น ไม้อัดหรือ MDF (แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง) วัสดุเหล่านี้ทำขึ้นโดยการเชื่อมเส้นใยไม้หรือแผ่นไม้อัดหลายๆ ชั้นเข้าด้วยกัน ทำให้ได้วัสดุที่แข็งแรงและราคาไม่สูง และปิดผิวและขอบด้วยลามิเนทหรือเมลามีนเพื่อเลียนแบบไม้จริงในขณะที่ให้ความมั่นคงและต้านทานการบิดงอมากขึ้น

B.2. เมลามีน

ตัวอย่างท็อปเมลามีนของ Standing desk Thai
ตัวอย่างท็อปเมลามีนของ Standing desk Thai สีดำ สีขาว สีเทา
ตัวอย่างท็อปเมลามีนของ Standing desk Thai
ตัวอย่างท็อปเมลามีนของ Standing desk Thai
ตัวอย่างท็อปเมลามีนของ Standing desk Thai
ตัวอย่างท็อปเมลามีนของ Standing desk Thai

ท็อปโต๊ะเมลามีนทำจากวัสดุพื้นผิว (โดยปกติคือ MDF หรือพาร์ติเคิลบอร์ด) ที่เคลือบด้วยเรซินเมลามีน การเคลือบนี้ให้พื้นผิวที่เรียบและทนทาน ทนต่อการขีดข่วน คราบสกปรก และความร้อน ท็อปโต๊ะเมลามีนมีสีและลวดลายให้เลือกมากมาย ทำให้มีตัวเลือกการออกแบบที่หลากหลาย โดยทั่วไปราคาย่อมเยาและการบำรุงรักษาต่ำเมื่อเทียบกับตัวเลือกไม้จริง

B.3. ลามิเนต

โต๊ะลามิเนตประกอบด้วยวัสดุสังเคราะห์ (โดยทั่วไปคือลามิเนตแรงดันสูง) ที่ใช้กับพื้นผิว เช่น MDF หรือพาร์ติเคิลบอร์ด กระบวนการเคลือบสร้างพื้นผิวที่ทนทานและทำความสะอาดง่าย ซึ่งทนทานต่อรอยขีดข่วน ความชื้น และการซีดจาง พื้นโต๊ะลามิเนตมีสี ลวดลาย และพื้นผิวให้เลือกมากมาย รวมถึงตัวเลือกที่เลียนแบบรูปลักษณ์ของไม้จริงหรือหิน พวกเขาเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับราคาย่อมเยา ความทนทาน และความอเนกประสงค์ Woods – Wilsonart Laminate Collection – All Products

C. เลือกการจัดวางสายไฟ

อีกส่วนของโต๊ะทำงานแบบปรับระดับด้วยไฟฟ้าที่ต้องคำนึงถึง คือการจัดสายไฟบนโต๊ะรวมไปถึงด้านล่างโต๊ะ เพราะถ้าสายไฟรุงรังจะทำให้โต๊ะดูไม่เรียบร้อยทันที ทริคที่เราแนะนำคือลองสำรวจอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งาน ตำแหน่งการจัดวาง จำนวนปลั๊กที่ต้องการใช้ รวมถึงปลั๊กไฟบ้านจะอยู่ตำแหน่งไหนของโต๊ะ เมื่อเราเห็นภาพรวมจะทำให้เราวางแผนและจัดการสายไฟได้อย่างเป็นระเบียบ

วางแผนสำหรับทางเดินสายไฟของโต๊ะทำงาน
ตัวอย่างการวางแผนสำหรับทางเดินสายไฟของโต๊ะทำงาน

อุปกรณ์สายไฟสำหรับโต๊ะทำงานแบบปรับระดับมีตัวเลือกมากมาย เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานทุกแบบของคุณครับ ลองสำรวจตัวเลือกเหล่านี้และเรียนรู้วิธีจัดการสายไฟอย่างมีประสิทธิภาพกันครับ

C.1. เว้าหลังโต๊ะ:

เว้าด้านหลังโตีะ
เว้าด้านหลังโตีะ

เทคนิคการเว้าด้านหลังโต๊ะจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผนังด้านหลังกับตัวโต๊ะ ซึ่งเราสามารถใช้ช่องวางนี้เป็นทางลงของสายไฟจากบนโต๊ะไปยังรางปลั๊ก หรือปลั๊กไฟด้านล่าง หรือสามารถใช้ช่องวางนี้เป็นจุดสำหรับ แขนจับจอ(Monitor arm) เพราะถ้าเราใช้ Clamp ของแขนจับจอจะทำให้มีส่วนของเหล็กยื่นออกมาทางหลังของตัวโต๊ะ โดยถ้าเราวางจุด Clamp ไว้ที่ส่วนที่เว้าด้านหลังก็จะทำให้เราสามารถวางตัวโต๊ะชิดกำแพงด้านหลังได้มากขึ้น

C.2. เจาะรูสำหรับเดินสายไฟ:

นอกจากการเว้าหลัง เรายังสามารถเจาะรูโต๊ะทำงานเพื่อเดินสายเคเบิลลงไปด้านล่าง มีรูหลายประเภทให้คุณเลือก:

C.2.1. การเจาะรูกลม:
เจาะรูกลมสำหรับสายไฟ
เจาะรูกลมสำหรับสายไฟ

ใช้รูเพื่อสอดสายเคเบิลผ่านรูเหล่านี้เพื่อให้สายไฟเป็นระเบียบและป้องกันไม่ให้พันกัน พร้อมส่วนพลาสติกวางปิดรูเพื่อให้ดูสะอาดตาและเรียบร้อย

C.2.2. เจาะรูสี่เหลี่ยมเล็กๆ:
ฝาป๊อปอัพสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สำหรับสายไฟ
ฝาป๊อปอัพสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สำหรับสายไฟ

หากคุณมีสายเคเบิลหลายเส้นที่ต้องร้อยลงด้านล่าง เราสามารถเจาะรูสี่เหลี่ยมเล็กๆ สิ่งนี้ทำให้คุณสามารถส่งผ่านสายเคเบิลหลายสายผ่านพื้นที่ที่มีขนาดกะทัดรัด จากนั้นจึงปิดด้วยอะลูมิเนียมทำให้ตัวโต๊ะดูหรูหราขึ้น

C.2.3. เจาะรูสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่:
ฝาป๊อปอัพสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สำหรับสายไฟ
ฝาป๊อปอัพสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่สำหรับสายไฟ

สำหรับสายเคเบิลขนาดใหญ่หรือชุดสายเคเบิล อาจจำเป็นต้องเจาะรูสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ขึ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารูกว้างพอที่จะรองรับสายเคเบิลทั้งหมดที่คุณต้องผ่าน อีกครั้ง ให้ใช้อุปกรณ์เสริมการจัดการสายเคเบิลเพื่อรักษารูปลักษณ์ที่เรียบร้อยและเป็นระเบียบ

C.3. วางปลั๊กไฟบนโต๊ะ:

สำหรับกรณีที่ลูกค้าต้องการเข้าถึงปลั๊กไฟได้สะดวก ยกตัวอย่างเช่น ปลั๊กไฟโน๊ตบุ๊คของบริษัทที่ต้องเสียบเข้าและถอดออกบ่อยๆ

C.3.1. ป๊อปอัพซ็อกเก็ต(Popup Socket):
Poup socket สำหรับสายไฟ
Poup socket สำหรับสายไฟ

ป็อปอัพซ็อกเก็ตคือปลั๊กไฟแบบที่เจาะรูและวางแนบไประนาบผิวโต๊ะ เพียงแค่กดปุ่มตัวปลั๊กไฟที่ถูกซ่อนไว้ก็จะเปิดขึ้นมาให้ใช้งาน ตัวเลือกนี้ช่วยให้คุณเสียบสายไฟและถอดออกได้อย่างง่ายดายโดยที่สามารถซ่อนตัวปลั๊กให้เรียบร้อยเมื่อไม่ได้ใช้งาน โดยจะมีทั้รุ่นที่เป็นปลั๊ก 4 ตัวและแบบที่มีปลั๊ก 2 ตัวและ USB 2 ปลั๊ก

C.3.2. ช่องจ่ายไฟซ่อนแบบ 3 หน้ากาก (Hidden Socket):
ปลั๊กซ่อนสำหรับสายไฟ
ปลั๊กซ่อนสำหรับสายไฟ

ตัวปลั๊กไฟที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นผิวโต๊ะโดยเต้ารับนี้ออกแบบมาให้มีฝาปิดมิดชิดเมื่อไม่ใช้งาน ตัวปลั๊กสามารถเลือกแบบของปลั๊กไฟหรือ USB ได้ โดยการมีเต้ารับหลายช่องทำให้คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยไม่เกะกะพื้นที่ทำงาน

C.3.3. ช่องจ่ายไฟซ่อนแบบ 2 หน้ากาก (Hidden Socket):
ปลั๊กซ่อนแบบ 2 เต้า สำหรับสายไฟ
ปลั๊กซ่อนแบบ 2 เต้า สำหรับสายไฟ

คล้ายกับตัวเลือกก่อนหน้า โดยตัวเลือกนี้มีจะมีขนาดกระทัดรัดขึ้นคือมีหน้ากากให้เลือกใส่ 2 หน้ากาก แต่ยังคงคุณสมบัติที่สามารถเปิดปิดบานพับสำหรับเสียบสายไฟ

C.4 วางปลั๊กไว้ใต้โต๊ะ:

ปลั๊กพ่วงที่สามารถติดใต้โต๊ะ
ปลั๊กพ่วงที่สามารถติดใต้โต๊ะ

การใช้ปลั๊กพ่วงถือว่าเป็นวิธีที่เราแนะนำมากที่สุดเพราะตัวปลั๊กพ่วงราคาไม่สูง และมีเต้าไฟรองรับให้ใช้งานได้เพียงพอกับอุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมากทั้งคอมพิวเตอร์ จอคอม โน๊ตบุ๊ต มือถือ แท็บเล็ตและอื่นๆ

ปลั๊กพ่วงแบบนี้ยังสามารถดูแลรักษาได้ง่าย เคล็ดไม่ลับของปลั๊กพ่วงรุ่นนี้คือเป็นปลั๊กที่มีส่วนเหล็กที่สามารถยึดกับใต้ท๊อปโต๊ะได้ ดังนั้นเมื่อติดปลั๊กเข้าไปด้านใต้โต๊ะก็จะทำให้คุณซ่อนตัวสายไฟต่างๆด้านใต้โต๊ะ เท่านี้โต๊ะก็จะดูเรียบร้อย

C.5 การติดตั้งรางปลั๊กไฟ:

รางปลั๊กไฟแบบเปิดปิดได้
รางปลั๊กไฟแบบเปิดปิดได้

เราสามารถติดตั้งถาดเก็บสายเคเบิลใต้โต๊ะเพื่อเก็บปลั๊กพ่วง อะแดปเตอร์และสายไฟด้านใต้โต๊ะ ข้อดีของรางปลั๊กไฟ Standing Desk Thai คือสามารถเปิดปิดใช้งานได้ ทีนี้เราก็สามารถมัดสายไฟและโยนเข้าไปเก็บได้อย่างสะดวกและเมื่อปิดถาดขึ้นก็สามารถช่วยบังสายตาทำให้โต๊ะดูสะอาดเรียบร้อยได้อย่างรวดเร็วครับ

C.6 เคล็ดลับ:

หลักการที่ช่วยให้โต๊ะดูเรียบร้อยมากขึ้นคือการอุปกรณ์จำพวก Cable tie เพื่อมัดสายเคเบิลเข้าด้วยกันเพื่อทำให้สายไฟไม่พันกันครับ รวยถึงการเลือกอุปกรณ์ไร้สายเพื่อลดจำนวนสายไฟที่ต้องใช้ เช่น คีย์บอร์ดไร้สาย เมาส์ และแท่นชาร์จ ร่วมกับการเจาะรู ใช้ปลั๊กไฟบนโต๊ะ วางปลั๊กใต้โต๊ะ ติดตั้งสายไฟ ก็ทำให้โต๊ะเราดูโล่งน่าใช้งานมากขึ้นครับ

D. เลือกอุปกรณ์เสริม

รางปลั๊กไฟแบบเหล็กสำหรับโต๊ะปรับระดับ
รางปลั๊กไฟแบบเหล็กสำหรับโต๊ะปรับระดับ

ถ้าหากลูกค้ามีความต้องการพิเศษไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์เสริมหรือแบบโต๊ะที่แตกต่างสามารถทักเข้ามาเพื่อลอง Draft โต๊ะก่อนสั่งทำได้เลยครับ

ติดต่อเราได้ทาง Facebook: https://www.facebook.com/standingdeskthailand

Line: @Viriqo หรือโทร 0819149040

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.